ใครอยู่แถว รังสิต มีใครรู้บ้างว่าในตลาดรังสิต มีบ้านพักคนชราและผู้พิการอยู่ด้วย ชื่อบ้านทองพูน ที่บ้านแห่งนี้ผมมักจะได้แวะเวียนไปทำอาหารเลี้ยงอย่างน้อยก็ปีละ 1 ครั้งในช่วงเวลาของวันเกิด แต่จะพยายามหาอาหารว่างประเภทขนมขบเคี้ยวแวะเวียนเอาไปฝากบ่อยกว่า พี่แม่บ้านคนดูและเค้าบอกว่าเวลาคนนำของมาบริจาค หรือนำมาให้ นั้นจะไม่มีใครนึกถึงขนมขบเคี้ยวมาฝากเลย เพราะคิดว่าผู้ชราคงไม่กินของพวกนี้แน่ๆ แต่ไม่รู้หรอกว่า คนชราบางทีก็ชอบกินด้วยเหมือนกัน ก็เลยแวะเวียนเอาไปฝากเป็นระยะๆ เท่าที่กำลังทรัพย์จะมีและให้ได้


ในครั้งนี้เป็นการไปเลี้ยงอาหารเนื่องในวันคล้ายวันเกิดเหมือนเคย แต่ครั้งนี้แตกต่างไปหน่อย เนื่องจากพูดคุยกันกับพี่แม่บ้านว่ารอบนี้จะกินอะไรดี อยากกินอะไรกัน เคยเห็นพี่ๆ ไปซื้อมะละกอ มาทำส้มตำกินกันเอง จะตำส้มตำกินกันไหม ทีแรกพี่เค้าก็ไม่ค่อยอยากจะกินส้มตำกัน แต่พอคุยกันไปคุยกันมา เลือกไปเลือกมา ก็กลับมาตกอยู่ที่ตัวเลือกเดิม คือตำส้มตำกินกันเอง โดยผมทำไปเพียงแค่ขนมหวาน เป็นต้มฟักทอง เมื่อถึงวันเวลาที่ได้นัดหมายไว้ ก็จัดเตรียมทำไปตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้


ต้มฟักทอง ที่ทำไปก็ทำกันแบบเต็มที่เหมือนกับทำเพื่อกินกันเอง พยายามที่จะปอกเปลือกออกให้หมด ให้เกลี้ยงเกลา กินกันได้ง่ายๆ เพราะเวลาทำกินเองก็จะปอกให้เกลี้ยงๆ แบบนี้เหมือนกัน ยิ่งต้องทำไปเลี้ยงดูคนชรา ก็ยิ่งต้องให้เกลี้ยงเกลา กินกันได้ง่ายๆ ไม่ติดฟัน

ส่วนน้ำกระทินั้นที่ได้มาในวันนี้นั้น ทั้งที่แจ้งไปว่า ขอเพียงหัวกระทิ ไม่เอาหางกระทิ พ่อค้าใจดีก็เลยตักเอาเฉพาะหัวกระทิ ที่คั้นด้วยเครื่องเอาไว้แล้วใส่ถุงให้ โดยไม่เสริมเติมน้ำหางกระทิมาเข้ามาร่วมผสมปนเปด้วยเลย แต่ก็ได้มาในแบบที่เห็น เพียงตั้งวางไว้เฉยๆ ได้ไม่นานก็แยกชั้นออกมาเด่นชัดมาก หัวกระทิ ก็เลยเหลือเพียงชั้นบางๆเท่านั้น ส่วนกระทิกล่องนั้น ไม่ต้องไปคิดถึง เพราะแม้จะข้น แต่ก็ไม่มัน เหมือนไม่ใช่กระทิล้วน พอทำขนมหวานเสร็จ ก็จะได้เพียงแค่รสหวานแต่ไม่มัน

ขนมที่ทำไปนั้น ก็ต้องใช้วิธีเดิมๆ เหมือนที่เคย นั่นก็คือ ต้องต้มหลายๆ ครั้ง แล้วนำไปเทรวมกันในหม้อใบใหญ่ เนื่องจากว่าเตาแก๊สที่ใช้ เป็นเตาแก๊สธรรมดาๆ เล็กๆ ใช้งานตามบ้านทั่วไป เวลาเจองานใหญ่ๆ แบบนี้ ก็เลยต้องแยกหม้อต้ม แล้วค่อยนำไปรวมกันอีกทีหนึ่งให้เป็นหม้อใบใหญ่


เมื่อใกล้ถึงเวลา เราก็เดินทางไปถึงจุดหมายในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาที่นัดเอาไว้ พี่แม่บ้านก็ได้เตรียมอาหารประเภทแกง ซึ่งเป็นต้มยำปลานิล (หากใครสงสัยว่า แล้วก้างจะไม่ติดคอเหรอ เรื่องนี้ถามแล้ว พี่ๆเค้าบอกว่า บรรดาผู้ชราและผู้พิการที่นี่คุ้นเคย และชินกับปลานิลแล้วเลยไม่มีปัญหาเรื่องก้าง แต่สำหรับผู้สูงวัยที่ไม่ไหวจริงๆ ก็จะมีเพื่อนๆ ช่วยกันแกะให้) แล้วก็เตรียมมะละกอกับเครื่องปรุงไว้อย่างเรียบร้อยเลย เพียงแค่สับมะละกอเพิ่มก็ตำส้มตำได้ทันที พอได้เวลาก็เริ่มสอบถามความต้องการของสมาชิกในบ้าน ใครอยากกินส้มตำอะไรก็บอกกันมาได้ เรียกได้ว่า ทำตามความต้องการรายคนเลยทีเดียว


ส้มตำมีหมดนะ ทั้งตำไทยปู ไทยปลาร้า ไทยลาว พริกกี่เม็ด เผ็ดขนาดไหน ก็บอก ก็สั่งกันมาได้เลย สั่งมาแล้วก็เตรียมรอรับความอร่อยกันตรงที่นั่งนั่นแหละ เดี๋ยวไปเสริฟให้รับประทานกันได้ทันทีที่เสร็จ เมื่อได้รับออเดอร์จากสมาชิกมา ก็ลงเริ่มต้นมือปฎิบัติการความอร่อยกันได้ ตอนแรกๆ พี่แม่บ้านจะให้ลองบรรเลงดู แต่เกรงว่าบรรดาผู้สูงวัยจะไม่คุ้นลิ้นกัน ก็ให้พี่แม่บ้านบรรเลงไปเลยจะสะดวกกว่า


ถาดอาหารถูกนำมาวางเรียงเตรียมไว้พร้อม ที่จะทยอยตักข้าวพร้อมด้วยกับข้าว ที่ได้รับความช่วยเหลือในการตักอาหาร จากพี่แม่บ้านอีกคน เมื่อตักเสร็จเตรียมไว้เรียบร้อยก็รอใส่ส้มตำลงในช่องที่เหลือและนำไปเสริฟให้เป็นรายคนต่อไป ซึ่งก็ค่อยทยอยเสร็จทีละถาดๆ แต่จะรอให้เสร็จครบทุกถาดแล้วค่อยนำไปเสริฟ ก็จะไม่อร่อย ส้มตำมันจะรู้สึกเซ็งๆ เกินไปหน่อย ความกรุบกรอบนิดๆ ของเส้นมะละกอจะกลายเป็นความชุ่มเหนียวของเส้นแทน จึงจำเป็นที่จะต้องนำไปเสริฟทันทีที่เสร็จรายถาด และยอมให้คนที่เหลือนั่งมองกลืนน้ำลายกันไปก่อน เนื่องจากต้องการจะให้ทุกๆ คนได้อร่อยสมความตั้งใจ เพราะเค้าจะไม่ได้กิน ในแบบที่อยากกินเช่นนี้ทุกวันหรอก ในวันที่ผู้ที่นำอาหารมาเลี้ยงไม่ได้ถามไถ่ความต้องการของคนที่อยากกินก็มีเหมือนกัน ซึ่งก็ไม่ได้แปลกอะไร เพราะเรื่องของการทำอาหารมาเลี้ยงก็ต้องขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ที่ทำอาหารมาด้วยเหมือนกัน

การทำบุญด้วยการเลี้ยงอาหารแบบนี้ คนทำก็มีความสุข สุขและสนุกตั้งแต่เริ่มทำอาหารด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าได้รับคำชมกลับมาว่าอร่อย กำลังใจยิ่งเพิ่มพูน แต่ที่แน่ๆ ความสุขมันเกินก่อนหน้านั้นแล้ว สุขที่ได้มอบความสุขให้กับผู้อื่น นี่แหละสุขที่สุดเลยครับ สุขที่ได้แบ่งปันให้กับคนอื่น แม้จะมีเงินไม่มากไม่มายอะไร แต่ก็ทำเท่าที่เราทำได้ อย่าทำจนตัวเราลำบาก เชื่อแน่ว่าทุกๆ มูลนิธิ ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเราแบบเป๊ะๆแน่นอน ถ้าถามผู้ดูแลบ้านนั้นๆ เค้าก็จะบอกว่าแล้วแต่เราจะจัดหา ในกรณีของผมนั้น ผมเพียงแค่คิดว่าอยากให้เค้าได้มีส่วนร่วมที่จะเลือกอาหารที่จะกินกันด้วยจึงได้คะยั้นคะยอถาม แต่รับรองได้ว่า มูลนิธิทุกแห่ง ไม่บอกเมนูหนักๆ ที่จะทำให้ผู้ที่จะทำอาหารไปเลี้ยงต้องลำบากใจเป็นแน่
- มะนาว ต้องหั่นเตรียมเอาไว้เยอะๆ
- วัตถุดิบสำคัญ มะละกอดิบ ค่อยๆสับ ค่อยๆหั่น
น้ำท่วม ให้อะไรมากกว่าที่คิด
“น้ำท่วม หรือ อุทกภัย” จัดว่าเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความเป็นจริงพื้นฐานของธรรมชาติ ก็คือ “ความเท่าเทียม” ธรรมชาติไม่สนใจ และไม่รู้จักความร่ำรวย หรือยากจน ...
ขนมปังปิ้ง อาหารยามเช้าๆ กินกับกาแฟ
ภาพนี้ก็เป็นเพียงแค่ขนมปังปิ้ง ที่ถ่ายมาจากกล้อง compact ตัวเล็กๆ พกสะดวก Fuji J20 ในเช้าของวันหนึ่ง มันก็คงจะไม่มีความหมายอะไรพิเศษ รูปก็ไม่สวย ...

วันแม่พาแม่เที่ยว 2012 ต่อภาคสอง (หมู่บ้านญี่ปุ่น)
หลังจากผ่านตลาดโก้งโค้งกันมาแล้ว ในระหว่างทางที่วิ่งจากตลาดโก้งโค้งไปยังตลาดน้ำอโยธยา ก็บังเอิญผ่าน และตาเหลือบไปเห็นหมู่บ้านญี่ปุ่น ก็เลยแวะเข้าไปเยี่ยมชมกันสักเล็กน้อย ที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของหมู่บ้านญี่ปุ่นในประเทศสยาม ถ้าหากจะถามว่ามีอะไรให้ดูมากไหม ก็คงไม่ได้มากมายอะไรนักสำหรับบางคน แต่สำหรับอีกหลายๆ ...

ถ่ายไฟคริสมาส 2012 / happy new year 2013
หลังจากได้กล้อง Olympus e-pm1 ในราคาโปรโมชั่นสุดๆ ที่ 9,900 บาท ตามข่าวแจ้งที่เว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ออกตามหาตามล่า ได้มา ...