ถามไปอย่างไร ก็ได้คำตอบแบบนั้น

“ลูกชิ้นไม้ละเท่าไหร่ครับ” คำถาม ถูกยิงออกไป ขณะที่มือก็ชี้ลงไปที่ลูกชิ้นปิ้ง กลิ่นหอมๆ ที่เพิ่งถูกหยิบออกจากเตา มาวางเรียงรายในถาดอลูมิเนียม ขนาดไม่ใหญ่ไม่โต วางลูกชิ้นปิ้งได้ไม่มากนัก

“ไม้ละสิบบาทจ้าลูก” คำตอบที่ดูเป็นกันเองและไพเราะ จากแม่ค้าวัยกลางคนที่กำลังปิ้งลูกชิ้นไป พร้อมกับตอบคำถามลูกค้าอย่างผม

“งั้นผมเอาสองไม้ครับ” ผมตอบกลับไป

“ได้ค่ะ” เสียงตอบมาอย่างนุ่มๆ

ขณะที่แม่ค้า กำลังเอาลูกชิ้นขึ้นปิ้งบนเตา ก็มีเสียง ดังขึ้นข้างๆ ตัวผม

“ไม้ละเท่าไหร่” เสียงดังฟังชัดเสียจนผมต้องหันหน้าไปทางต้นเสียง เป็นเสียงของหนุ่มพนักงาน ขับรถส่งของ หรือ ก่อสร้าง ผมก็ไม่อาจทราบได้ แต่ที่รู้คือน้ำเสียงห้วนๆ เหมือนไม่ได้คิดอะไรมากกับคำถาม

Read more

จังหวะชีวิต ที่แตกต่างกัน

เหตุการณ์เริ่มต้นเกิดที่โรงเรียนบ้านนอกแห่งหนึ่ง

ฝ่ายเด็กหญิง ชื่อ เปิ้ล ซึ่งต่อไปในเรื่องนี้จะเรียกแทนว่า “น้องเปิ้ล” (ทำยังกะภาษากฏหมาย ทำหนังสือสัญญาซะงั้น แล้วไหงบอกว่าบ้านนอก ชื่อนี่คนเมืองเชียว)

ฝ่ายเด็กชาย ชื่อ เข้ม (ชื่อค่อยเข้าบรรยากาศหน่อย) เรื่องก็มีอยู่ว่า ทั้งสองคนนี้เป็นเพื่อนกัน เพราะบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน ก็เลยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พอเริ่มโตขึ้นสักหน่อย ต่างก็เข้ามาเรียนกันในเมืองหลวงซึ่งแน่นอน กรุงเทพนั่นแหละ เรียนอยู่โรงเรียน เดียวกัน ห้องเดียวกัน เมื่อทั้งสองเรียนจบในระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ป.6 นะ ไม่ต้องงงกับศัพท์ทางการ) จังหวะชีวิต ของทั้งสอง ก็เริ่มที่จะมีความแตกต่าง ฝ่ายเปิ้ลนั้น พ่อและแม่ บอกว่า ไม่มีเงินจะส่งเสียให้เรียนต่อแล้ว เพราะอยากจะให้น้องๆ ของเปิ้ลได้เรียนกันบ้าง เปิ้ลซึ่งเป็นคนที่รักน้องมาก ก็เลยจำใจเลิกเรียน และเข้าไปสมัครทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นลูกมือ แม่ครัวของร้านแห่งนั้น ฝ่ายเข้ม นั้น พ่อและแม่ ยังส่งให้ร่ำเรียนไหว เพราะเข้มเป็นลูกคนเดียวพ่อแม่ มีกำลังส่งมากกว่า และ คาดหวังว่า ลูกชายเพียงคนเดียวนี้ จะได้เรียนจบสูงๆ มีหน้าที่ การงานดีๆ ทำ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของพ่อและแม่ ต่อไป จึงมีโอกาสได้เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ต้น นั่นแหละ)

เวลาค่อยๆ ผ่านไป ผ่านไปไว แต่ไม่ได้โกหก ทั้งสองคน ได้มาพบเจอกันอีกครั้ง โดยไม่ได้ตั้งใจ ในตลาดติดแอร์แห่งหนึ่ง ก็เลยได้มีโอกาสสอบถามสารทุกข์สุขดิบของกันและกัน

เข้ม – อ้าว เปิ้ล ไม่ได้เจอกันซะนาน เป็นยังไงบ้างล่ะ
เปิ้ล – ก็สบายดีน่ะสิ ไม่งั้นจะมาเดินซื้อของได้ไง
เข้ม – กวนแล้วมั๊ยล่ะ ไม่ได้เจอกันซะนาน ยังกวนเหมือนเดิมนะ
เปิ้ล – ก็เห็นนายดูมึนๆ ก็เลย หยอกล้อซะหน่อยเอง
เข้ม – เดี๋ยวก็แกล้งให้ปล่อยโฮ เหมือนตอนเด็กๆ เลยนี่
เปิ้ล – เอาแล้วมั๊ยล่ะ เอาล่ะๆ ข้ามไปแล้วกัน ว่าแต่ ตอนนี้ เป็นไงบ้างล่ะ เรียนจบแล้วรึยัง?

Read more

อ่านออกเขียนได้ ให้เป็นภารโรง

หนุ่มบ้านนอกยากจนคนหนึ่ง เสี่ยงโชคเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ ทั้งที่มิได้มีความรู้อะไรเลย เนื่องจากได้ทราบข่าวที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า มีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพ กำลังรับสมัคร นักการภารโรง ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา จึงจับรถมากรุงเทพ และเดินกางแผนที่ (ที่เพื่อนเขียนให้) สุ่มถามชาวบ้านถึงที่ตั้งของโรงเรียนนั้น ซึ่งกว่าจะเจอก็เหงื่อตกไปหลายปี๊บทีเดียวแหละ

เมื่อเข้าไปแจ้งความจำนงที่แผนกธุรการจึงมีเจ้าหน้าที่มาเรียกให้นั่ง และยื่นใบสมัครมาให้กรอกข้อความ นายหนุ่มนั้นก็ยิ้มแหย ๆ ยกมือไหว้แล้วบอกอ่อย ๆ กับเจ้าหน้าที่ว่า

“…ขอโทษครับพี่ ผม…คือว่า… ผม…อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ครับ…”

เจ้าหน้าที่ ที่นั่งรับสมัครอยู่นั้น ก็ชักสีหน้าทันที

Read more

โฆษณาเน้นเพื่อสังคมจริงหรือ?

พักนี้ การโฆษณาสินค้า มักจะมีออกมาในรูปแบบ ที่ว่า ถ้าลูกค้า ซื้อสินค้าของทางบริษัท ในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วทางบริษัทผู้ผลิตสินค้า จะนำเงินเหล่านั้น หักออกในจำนวนเงิ … Read more

ครอบครัวอบอุ่นกับอาหารเย็นง่ายๆ

อาหารเย็นง่ายๆ อร่อย และประหยัด ในยุคปัจจุบันนี้ ชีวิตในเมือง แต่ละคนก็เต็มไปด้วยความรีบเร่ง แต่ในความรีบเร่งในแต่ละวันนั้น เรากลับพบว่า เวลาของเราต้องสูญเสียไป … Read more

ป้ายจราจร กับความใส่ใจ

ห้ามจอดนะ
ห้ามจอดนะ
หากจะมีคนถามว่า เมื่อเห็นป้ายห้ามแบบนี้แล้วนึกอย่างไรบ้าง ต้องบอกว่า ถ้าคุณเป็นคนขับรถ ด้วยสินะ ถ้าหากคุณเป็นคนขับรถ มองเห็นป้ายนี้แล้วจะทำอย่างไร

– เค้าห้ามจอด ก็ต้องไปหาที่จอดที่อื่นสิ
– ไม่เป็นไรน่าจอดแป๊บเดียวเอง
– ตำรวจอยู่แถวนี้รึป่าวหว่า ถ้าไม่อยู่จะได้จอด
– สายแล้ว รถน้อย จอดแป๊บเดียวคงไม่เป็นไร
– ถนนออกจะกว้าง ขอจอดแป๊บนึงแล้วกัน
– ป้ายไม่ได้บอกว่า ห้ามจอดตลอดเวลานี่ แสดงว่าจอดได้
– วันนี้วันหยุด ตำรวจไม่ทำงานหรอก

Read more

เมื่อแฟนทำขนมเทียน

ช่วงนี้ที่บ้านพยายามหากิจกรรมพิเศษทำกัน เพื่อให้เข้ากันกับจังหวะชีวิตที่เปลี่ยนไป สิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ตัว มองเห็นกันบ่อยๆ ก็คงไม่พ้นเทียน อีกทั้งยังใช้ประโยชน์ได้ … Read more

สายรุ้งบนพื้นดิน

ตอนเด็กๆ เราคงจำกันได้ พ่อแม่ หรือครู จะสอนว่า รุ้งมีด้วยกัน 7 สี ประกอบไปด้วยสี ม่วง,คราม,น้ำเงิน,เขียว,เหลือง,แสด และ แดง พวกเราก็คงล้วนแล้วแต่เห็นรุ้งกินน้ำ … Read more

แอบมองแมลงวัน

ตากล้อง ที่ไม่ค่อยจะพกกล้อง หลายๆ ครั้ง ก็พลาดโอกาสเก็บภาพ เมื่อต้องการเก็บภาพสวยๆ ที่พบ อย่างล่าสุดนี้ ก็ต้องการเก็บภาพแมลงวัน ที่กำลังตั้งท่าขยายพันธุ์โดยไม่ส … Read more

แสงสวยๆ ที่เกิดจากชั้นบรรยากาศผิดปกติ

ได้ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนบ้านเพื่อนคนสนิท หลังจากขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ได้ไป พอมีเวลาว่างบ้าง ก็ได้ไปหา พอดีกับว่า เห็นแสงสีสวยๆ ลอดส่องออกมาจากกลุ่มเมฆ ก็หยิบกล้องมือถ … Read more

“ชีวิต” ต้องมีช้าบ้าง เร็วบ้าง

ช่วงนี้ได้มีโอกาสลาหยุดอยู่บ้าน เนื่องด้วยหลายๆ เหตุผลที่ พุ่งเข้าใส่ในช่วงนี้ ทำให้ชีวิตปั่นป่วนพอสมควร การที่เราได้ทำอะไรช้าลงบ้าง นั่นก็ทำให้เราได้มีโอกาสมอง … Read more

ทำผิดอย่าคิดว่า ไม่มีใครรู้

ทำผิดอย่าคิดว่า ไม่มีใครรู้

บ้านหลังนึง แม่เป็นคนขายอาหารตามสั่ง มีลูกๆ ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่ 2 คนด้วยกัน โดยปกติในแต่ละวัน หลังจากเก็บข้าวของ และปิดร้านแล้ว แม่ จะนำเงินที่ขายได้ มานับ และแบ่งใส่ในกระป๋องนมใบเก่าๆ ที่ใช้มานานหลายปีแล้ว เป็นประจำ เพื่อเก็บและไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินด้วย ลูกๆ 2 คน อยู่ในวัยเรียน คนพี่ชื่อ โป้ง เรียนอยู่ ป.2 ด้วยความที่โป้งเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะซน ก็มักจะสร้างความวุ่นวายให้กับแม่ได้เสมอๆ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่โป้งไปโรงเรียนและได้เห็นเพื่อนๆ มีของเล่น ที่ตนเองไม่มี ก็นึกอยากที่จะได้บ้าง คิดอยู่ว่า “ถ้าไปบอกแม่ แม่จะต้องไม่ให้แน่ๆ” แต่ด้วยความอยากได้ ก็ทำให้ครุ่นคิดถึงของเล่นชิ้นนั้นเป็นระยะๆ

ครั้นพอกลับถึงบ้าน ขณะเดินขึ้นไปบนบ้าน ก็พอดีมองไปเห็นกระป๋องนมที่แม่ใส่ตังค์ไว้ บนหลังตู้กับข้าว ก็ทำให้จิตที่ไม่ดี เริ่มต้นทำงาน โป้งเดินไปหยิบกระป๋องใบนั้น เปิดออกดู ก็พบกับเงินอยู่จำนวนหนึ่ง และคิดว่า “ไม่น่าเป็นไรน่า ของเล่นเพียงไม่กี่บาท เอาเงินนี้ไปใช้ก่อน แล้วเราจะนำเงินค่าขนมที่ได้ในแต่ละวัน กลับมาคืนที่เดิมให้แม่ก็แล้วกัน” เมื่อคิดดังนั้น โป้ง ก็นำเงินออกมาเพื่อเตรียมไปซื้อของเล่นที่ตนเองต้องการในวันรุ่งขึ้น

Read more